เผาร้านโปรด “มาครง” ในการประท้วงใหญ่ฝรั่งเศสรอบที่ 11

เผาร้านโปรด “มาครง” ในการประท้วงใหญ่ฝรั่งเศสรอบที่ 11

คาเฟ่ชื่อ ‘ลา โรตองด์’ (La Rotonde) ในกรุงปารีส ซึ่งเป็นร้านโปรดของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ถูกวางเพลิงเผา ตำรวจปราบจลาจลต้องตั้งแผงกั้นรอบ ๆ คาเฟ่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถดับเพลิงได้อย่างรวดเร็ว และไม่เกิดความเสียหายมากนัก

สำหรับคาเฟ่ลา โรตองด์แห่งนี้ มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นร้านโปรดร้านหนึ่งของประธานาธิบดีมาครงและคนดังหลายคน รวมถึงปิกัสโซด้วย มาครงเคยฉลองชัยชนะการเลือกตั้งปี 2017 ที่นี่

ขณะเดียวกัน พนักงานการรถไฟฝรั่งเศสที่นัดหยุดงาน ยังบุกเข้าไปในอาคารสำนักงานใหญ่ในกรุงปารีสของ แบล็คร็อค (BlackRock) วาณิชธนกิจของสหรัฐฯ โดยจุดคบเพลิงเข้าไป ทำให้เกิดควันคละคลุ้งไปทั่วอาคาร แต่ไม่เกิดความรุนแรงมากกว่านั้น

ข่าวต่างประเทศ

เกิดการประท้วงแผนเพิ่มอายุเกษียณและแผนปฏิรูปบำนาญของรัฐบาลฝรั่งเศส และนัดหยุดงานพร้อมกันทั่วประเทศ เป็นครั้งที่ 11 แล้วนับตั้งแต่เริ่มประท้วงทั่วประเทศครั้งแรกเมื่อกลางเดือนมกราคมปีนี้เป็นต้นมา ทำให้ฝรั่งเศสเป็นอัมพาต ชนวนการประท้วงคือแผนการเพิ่มอายุเกษียณ 2 ปี เป็น 64 ปี

การประท้วงเมื่อวานนี้ เกิดขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีมาครง เจ้าของแผนปฏิรูปบำนาญที่สร้างความโกรธแค้นให้แก่ชาวฝรั่งเศส ไม่ได้อยู่ในประเทศโดยเขากำลังเยือนจีนอย่างเป็นทางการ

ในกรุงปารีส เกิดการปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจล ผู้ประท้วงขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำ สาดสีใส่ตำรวจ ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและปะทะต่อยตีกับผู้ประท้วงที่เดินขบวนไปทั่วเมือง หลังเกิดการจุดไฟเผาหลายจุด มีการเผารถจักรยานยนต์ ถังขยะทั่วกรุงปารีส จนเกิดควันลอยไปทั่ว นอกจากนี้ยังเกิดการประท้วงปฏิรูปบำนาญในเมืองแรนส์และกาเลส์ และมีการปะทะกับตำรวจด้วย

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจากกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสแสดงให้เห็นว่า มีผู้ประท้วงออกมาน้อยลงเรื่อย ๆ จากที่เคยสูงสุดกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศในการประท้วงครั้งที่ 9 ลดลงเหลือ 700,000 กว่าคนในครั้งที่ 10 ส่วนในครั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสระบุ มีผู้เข้าร่วมประท้วง 570,000 คนทั่วประเทศ แต่สหภาพแรงงานระบุตัวเลขผู้ประท้วงเกือบ 2 ล้านคนในการประท้วงล่าสุดนี้

ส่วนชะตากรรมของกฎหมายเพิ่มอายุเกษียณจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญฝรั่งเศสจะมีคำชี้ขาดในวันที่ 14 เมษายนที่จะถึงนี้ จะตีตกกฎหมายนี้หรือไม่ หลังร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านสภาไปโดยไม่มีการลงมติ เนื่องจากรัฐบาลฝรั่งเศสใช้อำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญ ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวโดยข้ามการลงมติของสส. ไป เนื่องจากรัฐบาลใช้อำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญ ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจชี้ขาดกฎหมายนี้

การประท้วงยังไม่มีทีท่าจะจบลงง่าย ๆ เมื่อสหภาพฯ นัดหยุดงานใหญ่ทั่วประเทศครั้งต่อไปในวันที่ 13 เมษายนนี้ 1 วันก่อนหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินชี้ขาดกฎหมายเพิ่มอายุเกษียณ

ติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ : อดีต ปธน.ไต้หวัน เตรียมเดินทางเยือนจีน